จากตำนานและเรื่องราวเล่าขานเกี่ยวกับขุมทรัพย์/สมบัติที่บรรพบุรุษของเราได้เล่าสืบทอดต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ทำให้เราอดใจที่จะอยากรู้ไม่ได้ว่าเรื่องราวที่ได้ฟังมานั้นคือเรื่องจริงหรือเปล่า ทำให้เราเห็นตั้งแต่ในอดีตว่ามีผู้คนมากมายที่ออกตามล่าหาขุมทรัพย์/สมบัติ หรือที่เรียกว่า นักล่าสมบัติ ซึ่งพวกเขาก็เชื่อกันจริงๆ ว่ามีทรัพย์สมบัติของคนโบราณถูกซ่อนอยู่ตามที่ต่างๆ หลายแห่งบนโลกใบนี้
แล้วคุณล่ะ เชื่อว่ามีสมบัติอันประเมินมูลค่าไม่ได้ซ่อนอยู่บ้างไหม หรือถ้าคุณไม่รู้ว่าในโลกของเรามีสมบัติชิ้นใดที่หายสาบสูญไปบ้าง วันนี้เราจะมาเล่าให้ฟังว่าท็อป 10 ของสมบัติอันล้ำค่าทางประวัติศาสตร์นั้นมีอะไรบ้าง
ห้องอำพัน (The Amber Room)
เป็นห้องถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 18 ภายในห้องจะตกแต่งด้วยแผ่นอำพันประดับทองและกระจกอย่างงดงาม ตัวห้องตั้งอยู่ในพระราชวังแคทเธอรีน ที่อยู่ใกล้เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก และเป็นที่รู้จักในฐานะ “สิ่งมหัศจรรย์ชิ้นที่ 8 ของโลก” แต่น่าเสียดายที่อัญมณีและสิ่งมีค่าต่างๆ ในห้องนี้ถูกนาซีเยอรมันปล้นไปและทำลายทิ้งในช่วงสงครามโลกครั้งที่
เหมืองทองของดัตช์แมนที่หายไป (The Lost Dutchman’s Gold Mine)
เหมืองทองแห่งนี้เป็นตำนานที่เล่าขานกันมานาน ซึ่งผู้คนเชื่อกันว่ามันตั้งอยู่ในภูเขาซูเปอร์สติชัน ในรัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกา มีการเล่าว่าภายในมีทองคำจำนวนมหาศาลซ่อนอยู่ ทำให้หลายคนพยายามค้นหาเมืองนี้มาตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19 และก็ยังไม่มีใครค้นพบจนถึงปัจจุบัน
เพชรฟลอเรนไทน์ (The Florentine Diamond)
เพชรฟลอเรนไทน์เป็นเพชรสีเหลืองที่มีน้ำหนัก 137 กะรัต มีประวัติอันยาวนานตั้งแต่สมัยยุคกลางของยุโรป ราชวงศ์ฮับส์บูร์กของออสเตรียเคยเป็นผู้ครอบครองเพชรชิ้นนี้ แต่มันเกิดหายไปหลังจากสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 1
หีบพันธสัญญา (The Ark of the Covenant)
หีบพันธสัญญาชิ้นนี้เป็นวัตถุทางศาสนาที่สำคัญที่สุดในคัมภีร์ไบเบิล ซึ่งมีความเชื่อว่าภายในบรรจุแผ่นศิลา 10 ประการและวัตถุศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ มีการบันทึกว่าหีบนี้เคยถูกเก็บไว้ในวิหารโซโลมอนที่เยรูซาเล็ม แต่หายสาบสูญไปหลังจากการทำลายวิหารในศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสต์ศักราช
สมบัติของอัศวินเทมพลาร์ (The Treasure of the Knights Templar)
อัศวินเทมพลาร์ เป็นกลุ่มนักรบและนักบวชในยุคกลางที่มีบทบาทสำคัญในช่วงสงครามครูเสด และได้รับสมบัติมหาศาลในช่วงเวลานั้น แต่เมื่อกลุ่มถูกยุบในปี 1312 สมบัติของพวกเขาก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย มีข่าวลืออ้างว่าสมบัติบางส่วนอาจถูกซ่อนอยู่ในที่ต่างๆ ทั่วโลกรวมถึงในประเทศฝรั่งเศสและสกอตแลนด์ แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานใดๆ ที่ยืนยันได้ชัดเจน
ไข่อีสเตอร์ของราชวงศ์โรมานอฟ (The Romanov Easter Eggs)
ไข่ฟาแบร์เช่ เป็นเครื่องประดับที่ถูกสร้างขึ้นด้วยความประณีตสำหรับราชวงศ์โรมานอฟของรัสเซีย มีการสร้างไข่เหล่านี้ประมาณ 50 ชิ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ถึงต้นศตวรรษที่ 20 หลายชิ้นสูญหายไปหลังจากการปฏิวัติรัสเซียในปี 1917 และปัจจุบันยังมีบางชิ้นที่ไม่สามารถติดตามคืนมาได้ ทำให้ไข่อีสเตอร์นี้กลายเป็นสมบัติที่เหล่านักสะสมต้องการมากที่สุดในโลก
สมบัติแห่งลิมา (The Treasure of Lima)
สมบัตินี้ถูกซ่อนอยู่บนเกาะโกโกสคอสตาริกาโดยกัปตันโจรสลัดแห่งอังกฤษในปี 1820 เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกปล้นชิงจากชาวสเปน เชื่อกันว่าสมบัตินี้ประกอบไปด้วยทองคำ เงินและอัญมณีมากมาย ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 60 ล้านดอลลาร์ แต่ก็ยังไม่เคยมีใครค้นพบหรือยืนยันการมีอยู่จริงของสมบัตินี้ได้
ทองคำของอินคาที่สูญหาย (The Lost Inca Gold)
เมื่อชาวสเปนเดินทางมาถึงเปรูในศตวรรษที่ 16 เหล่าชาวอินคาจึงได้ช่วยกันซ่อนทองคำจำนวนมหาศาล เพราะไม่ต้องการให้สมบัติเหล่านี้ตกไปอยู่ในมือของพวกชาวสเปน มีข่าวลือว่าสมบัติของชาวอินคาเหล่านี้ถูกซ่อนอยู่ในเทือกเขาแอนดิสหรือแม่น้ำแอมะซอน แต่ในปัจจุบันก็ยังไม่มีใครค้นพบได้จริงๆ
ฟอสซิลของมนุษย์ปักกิ่ง (The Peking Man Fossils)
ฟอสซิลของ Homo erectus ถูกค้นพบในปี 1920 ในประเทศจีน ถือเป็นหลักฐานที่สำคัญของการวิวัฒนาการของมนุษย์ ฟอสซิลนี้สูญหายไปในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เพราะถูกขนย้ายจากปักกิ่งไปยังสหรัฐอเมริกาเพื่อความปลอดภัย แต่นับจากนั้นมาก็ไม่เคยมีใครเห็นฟอสซิลนี้อีกเลย
ทองคำของยามาชิตะ (Yamashita’s Gold)
นายพลยามาชิตะ โทโมยูกิ เป็นผู้บัญชาการทหารญี่ปุ่นในสงครามโลกครั้งที่ 2 มีข่าวลือว่าก่อนสงครามจะสิ้นสุดลง เขาได้ซ่อนทองคำและสมบัติล้ำค่ามากมายในถ้ำและอุโมงค์ใต้ดินในประเทศฟิลิปปินส์ แต่แม้จะมีการค้นหามากมายก็ยังไม่มีใครค้นพบสมบัตินี้เลย