Site stats 6 เรื่องราวเกี่ยวกับมิสอินเตอร์เนชั่นแนลคนแรกของไทย บิ๊นท์-สีรีธร – Limelight Media

6 เรื่องราวเกี่ยวกับมิสอินเตอร์เนชั่นแนลคนแรกของไทย บิ๊นท์-สีรีธร

ประเทศไทยของเราถือว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีการเชียร์นางงามกันอย่างจริงจังมาก ๆ ประเทศหนึ่งของโลก และเวทีมิสอินเตอร์เนชั่นแนลนั้น ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในเวทีที่เก่าแก่ที่สุดของโลก และประเทศไทยของเรานั้นก็ไม่เคยคว้ามงกุฎมาได้เลย จนกระทั่งเมื่อปี 2019 กองเชียร์นางงามของประเทศไทยก็ได้รับข่าวดีที่สุด ที่ตัวแทนของสาวไทย น้องบิ๊นท์-สิรีธร ลีห์อร่ามวัฒน์ ได้คว้ามงกุฎในเวทีนี้ได้ เธอจึงได้เป็นมิสอินเตอร์เนชั่นแนลคนแรกของประเทศไทย และนอกจากนี้ เธอยังพ่วงอีกหนึ่งตำแหน่งได้แก่ Miss Continental Queen of Asia จากเวทีเดียวกัน และ      ในบทความวันนี้ พวกเราได้มีเรื่องราวเกี่ยวกับสาวมหัศจรรย์คนนี้มาฝากกันค่ะ

1. ประวัติคร่าว ๆ ของเธอ

น้องบิ๊นท์-สิรีธร นั้นเป็นคนกรุงเทพมหานครโดยกำเนิด โดยที่เธอได้เข้ารับการศึกษาระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนบดินทร    เดชา (สิงห์ สิงหเสนี) และได้จบการศึกษาระดับอุดมศึกษาจากคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และปัจจุบัน นอกจาก  ที่จะดำรงตำแหน่งนางงามแล้ว เธอยังประกอบอาชีพเป็นเภสัชกรอีกด้วย นับว่าดีกรีของเธอนั้นไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ

2. ม้ามืดในเวทีนางสาวไทย

เธอนั้นเป็นตัวแทนจากกรุงเทพมหานครในการประกวดนางสาวไทยเมื่อปี 2019 และในปีที่เธอเข้าแข่งขันนั้น ก็มีตัวเต็ง    คนอื่น ๆ อยู่มาก ซึ่งเธอนั้นก็ไม่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นตัวเต็งเบอร์หนึ่งที่กองเชียร์คาดเดากัน เรียกได้ว่าเธอนั้นเป็นม้ามืด และในปี 2019 นั้น เธอก็ได้ตำแหน่งนางสาวไทยมาครอง 

3. เธอเป็นนักสู้ แม้ว่าจะถูกสบประมาท

จากการที่เธอเป็นม้ามืดที่ซิวมงกุฎนางสาวไทยได้สำเร็จ หลังจากนั้นก็มีเสียงต่าง ๆ นานาว่า เธอนั้นไม่เหมาะกับตำแหน่งนางสาวไทยบ้าง เธอนั้นไม่ได้มีหน้าตาที่สวยจัดบ้าง แต่เธอนั้นก็หมั่นพัฒนาตนเอง และปรับปรุงในทุก ๆ ด้าน จนเธอนั้นได้  รับเลือกให้เป็นตัวแทนประเทศไทย เพื่อเข้าสู่การประกวดมิสอินเตอร์เนชั่นแนลที่ประเทศญี่ปุ่น

4. สุนทรพจน์ที่ตราตรึงใจ 

ในรอบสุดท้ายของการประกวดมิสอินเตอร์เนชั่นแนลที่ประเทศญี่ปุ่นนั้น น้องบิ๊นท์ได้ปรากฏตัวในชุดราตรียาวประดับขนนกสีชมพู พร้อมด้วยทรงผมเกล้าแบบตั้งหม้อ ซึ่งส่งให้เธอนั้นดูสวยหวาน และโดดเด่นมาก ๆ ในค่ำคืนนั้น และส่วนหนึ่งของคำตอบของเธอ ที่เธอนั้นได้ตอบในคำถามรอบสุดท้ายเกี่ยวกับพลังของผู้หญิง ซึ่งพอสรุปได้ว่า เมื่อเธอได้รับรางวัลนางสาวไทย เธอนั้นถูกกลั่นแกล้งด้วยถ้อยคำต่าง ๆ นานา แต่นั่นก็ไม่ทำให้เธอย่อท้อ ซึ่งในการที่เธอมายืนตรงนี้ได้ และแสดงให้ทุกคนได้เห็นว่า ผู้หญิงธรรมดาอย่างเธอทำได้ ทุก ๆ คนก็ย่อมทำได้เช่นกัน ซึ่งเป็นคำตอบที่ตราตรึงใจเป็นอย่างยิ่ง

5. จากนางงามสู่เส้นทางในวงการบันเทิง

เธอนั้นได้ครอบมงกุฎมิสอินเตอร์เนชั่นแนล 2 ปีซ้อน ได้แก่ปี 2019 และปี 2020 เนื่องจากสถานการณ์โควิด และทางเวทีแม่ก็ไม่อยากเสี่ยงจัดการประกวดในช่วงโรคระบาด ดังนั้นเธอจึงได้ครองตำแหน่งถึง 2 ปีซ้อน ส่วนงานในประเทศไทยนั้นเธอก็ยังคงทำหน้าที่เป็นเภสัชกร และได้เริ่มต้นงานในวงการบันเทิงได้แก่ การแสดงละครเรื่อง รักนะขอรับ ที่ซึ่งจะออกอากาศทางช่อง ONE

6. โครงการในการให้ความรู้เรื่องยาและสมุนไพรต้านโควิด

ด้วยความที่เธอเป็นเภสัชกร และมีความรู้เรื่องยา และสมุนไพรโดยตรง โดยเธอใช้เวลาว่างเพื่ออุทิศตนทำงานให้แก่สังคม   ด้วยการร่วมมือกับเพื่อน ๆ ที่เป็นบุคลากรการแพทย์ ให้ข้อมูลกับประชาชนเรื่องการบริโภคยา และสมุนไพรต้านโควิด ผ่านทางคลิปวิดีโอที่เธอนั้นตั้งใจทำเป็นอย่างมาก เพื่อให้ความรู้ และเป็นวิทยาทาน

Advertisements